อาการของมะเร็งที่คนคิดไม่ถึง
ที่มา นิตยสารชีวจิต คอลัมน์ประสบการณ์จากวิชาชีพ โดย ใบเหมียง
การทำสงครามถ้าจะให้ชนะอีกฝ่ายหนึ่ง คู่ต่อสู้จะต้องใช้กลวิธีโจมตีชนิดที่ไม่ให้ข้าศึกได้ทันรู้ตัว และต้องโจมตีฐานที่มั่นที่สำคัญให้ได้จึงจะชนะเด็ดขาด
เรื่องการต่อสู้กับมะเร็งขณะนี้ก็เหมือนกัน คล้ายๆ กับการทำสงคราม มะเร็งคือตัวข้าศึก เวลานี้ที่ทั้งหมอและคนไข้ต่อสู้กับมะเร็งแล้วไม่ค่อยชนะ ก็เพราะว่าไปสู้ในขณะที่มะเร็งโจมตีถึงฐานสำคัญของชีวิต เช่น โจมตีถึงระบบสมอง ก็ทำให้คนเจ็บหัว คิดไม่ออก ปากเบี้ยว พูดไม่ได้ กินไม่ได้ โจมตีถึงระบบกระดูก ก็ทำให้คนเดินไม่ได้ เพราะเจ็บหลัง เจ็บขา โจมตีถึงระบบทางเดินหายใจ ก็ทำให้คนหายใจไม่ออก ขาดอากาศ ตาย เป็นต้น
ส่วนในเวลาที่มะเร็งยังโจมตีมาไม่ถึง เราก็ไม่ได้ไปสู้ เหตุที่ไม่สู้ก็เพราะไม่รู้และไหวตัวไม่ทันว่านั่นคืออาการของมะเร็ง คนคิดไปไม่ถึงว่ามะเร็งจะมีเล่ห์เหลี่ยมที่แยบยลยิ่งกว่ากองโจร หลายคนคงเคยเห็นโฆษณาของแผนกมะเร็ง หรือแผนกสุขศึกษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่แจกเป็นแผ่นพับ และที่เขียนไว้ตามบอร์ดนิทรรศการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนเรื่องมะเร็งว่าอาการและอาการแสดงของมะเร็งเป็นดังนี้
มะเร็งปอด จะไอเรื้อรัง หรือไอเป็นเลือด มีอาการหอบเหนื่อย
มะเร็งลำไส้และทวารหนัก ถ่ายปนเลือด มีการเปลี่ยนแปลงของการขับถ่าย เช่น ท้องผูก ท้องเสีย
มะเร็งตับ มีอาการแน่น อึดอัดท้อง
มะเร็งเต้านม มีก้อนที่เต้านม หรือมีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลออกจากหัวนม เป็นต้น
อยากจะบอกว่า อาการที่แสดงออกลักษณะอย่างนี้ ไอเป็นเลือด ถ่ายปนเลือด แน่นอึดอัดท้อง มีน้ำเหลืองไหลออกจากหัวนม คืออาการของมะเร็งเต็มขั้นแล้ว หรือเกือบระยะสุดท้ายแล้วทั้งนั้น ซึ่งตัวอย่างก็คงไม่ต้องยกมาให้ดูกันอีกแล้ว เพราะตรงไปตรงมา ถ้าใครมีอาการอย่างนี้มาโรงพยาบาล ส่วนใหญ่หมอก็วินิจฉัยไม่ยากนัก แต่ที่ยากและสร้างความเวียนหัวอยู่ คืออาการที่ไม่ตรงไปตรงมา และมีอาการเพียงเล็กๆ น้อยๆ และยิ่งกว่านั้นยังแสดงออกมาภายนอกอย่างคลุมเครืออีกต่างหาก
อาการเหล่านี้ล่ะที่คนคิดไม่ถึงว่ามันคืออาการอย่างหนึ่งของมะเร็ง แต่ความจริงในทางทฤษฎีนั้น ผู้รักษาก็รู้แบะจำได้ขึ้นใจกันทุกคนว่านี่คืออาการของมะเร็ง แต่ในภาคสนามกลับลังเลและสับสน เครื่องมือก็จับไม่ค่อยได้ เพราะไม่ไวพอ และอายุการใช้งานก็เกือบปลดเกษียณแล้ว งานนี้อย่าไปโทษใครเลยให้ศึกษาไว้เป็นบทเรียนก็แล้วกัน เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการสังเกตตัวเอง และเพื่อเปลี่ยนกลยุทธ์ในการต่อสู้กับมะเร็งกันเสียใหม่
ต่อไปนี้คือตัวอย่างจริงของอาการมะเร็งบางอย่างที่คนทั่วไปไม่ค่อยคิดถึงกัน ตัวอย่างที่ได้มาส่วนใหญ่เป็นคนไข้ที่คลินิกและคนไข้มะเร็งที่มาปรึกษาเป็นการส่วนตัว ซึ่งมีจำนวนมาก แต่จะขอยกตัวอย่างที่สำคัญๆ มาเท่านั้น
รายที่ 1 มาด้วยอาการปวดหลัง แต่เป็นมะเร็งปอดขั้นสุดท้าย
เป็นชายวัย 49 ปี อาชีพรับราชการ มาที่ห้องฉุกเฉินด้วยอาการปวดหลังมากสองอาทิตย์ โดยความปวดมีความรุนแรงเป็นลำดับดังนี้ เมื่อห้าเดือนก่อนมาโรงพยาบาลเริ่มปวดหลังที่ด้านซ้าย ร้าวไปทั่วเอว อาการเป็นไม่มาก ก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง หมอบอกเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ ก็ได้ยาไปกิน แต่อาการปวดก็ยังไม่ดีขึ้น เวลาสามเดือนผ่านไป ทีนี้ปวดลุกลามไปทั้งสองข้าง ถ้ายืนนานๆ จะปวดมากขึ้น เวลาเดินต้องพยุง ช่วงนี้รู้สึกเบื่ออาหาร น้ำหนักลดไป 10 กิโลกรัมต่อเดือน ก็ไปนอนโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งอยู่สองอาทิตย์ อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงส่งมาที่คลินิก ด้วยเหตุผลว่าไม่มีเครื่องเอ็กซ์เรย์ จึงไม่สามารถรักษาได้มากกว่านี้แล้ว
มาถึงโรงพยาบาลก็ไปอยู่ตึกกระดูกและข้อ ผลเอ็กซ์เรย์พบว่าบางส่วนของกระดูกสันหลังบริเวณทรวงอกหายไปและกระดูกซี่โครงก็หายไป 2 ซี่ ส่วนเอ็กซ์เรย์ปอดก็มีเนื้องอกอยู่ พอเอาชิ้นเนื้อนี้ไปตรวจก็พบว่าเป็นมะเร็ง นอกจากนี้ที่ตับก็มีเนื้องอกอีกด้วย หมอวินิจฉัยว่าคนไข้รายนี้เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เพราะกระจายไปกระดูก ไปตับแล้ว ฉันเจอคนไข้บนเปลนอน นอนอยู่นิ่งๆ แทบไม่ขยับเลย ได้แต่พูดกับยกมือดูดน้ำหวานเท่านั้น คนไข้บอกว่า "ไม่ได้เหนื่อยอะไร มีแต่ปวดหลังมากเท่านั้น"
รายที่ 2 พบเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายจากอุบัติเหตุขาหัก
เป็นชายวัย 58 ปี อาชีพค้าขาย มาที่แผนกฉุกเฉินเช่นกัน ด้วยประวัติว่าเพียงแค่เอาขาซ้ายไปยันรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น ขาก็ดังกร๊อบ จึงรู้ว่าขาหัก ไปรักษากับหมอบ้านอยู่หนึ่งเดือน โดยเข้าเฝือกและนวด แต่ก็ยังยืนไม่ได้ บวมและปวดมากขึ้นจึงมาโรงพยาบาล หมอได้ผ่าตัดต่อกระดูก และเอาชิ้นเนื้อไปพิสูจน์ก็พบว่าเป็นมะเร็งที่กระจายมาจากที่อื่น จึงไปเอ็กซ์เรย์ปอด และคีบชิ้นเนื้อมาตรวจ ก็พบแหล่งจากปอดนี่เอง หมอก็สรุปการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดขั้นสุดท้าย เพราะกระจายไปกระดูกแล้ว
รายที่ 3 รู้ว่าเป็นมะเร็งปอดก็เพราะจะผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูก
เป็นหญิงวัย 38 ปี อาชีพนับเงินของบริษัทตัวเอง เธอเล่าให้ฟังว่า "พี่ไม่ได้มีอาการทางปอดเลยนะ พี่ยังออกกำลังกายได้ แต่ที่รู้เพราะว่าพี่จะมาผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูกซึ่งเป็นมาตั้งแต่ตอนตั้งท้อง ตอนนี้ลูกพี่คลอดแล้วได้ 8 เดือน ก็เลยว่าจะมาผ่าให้เสร็จๆ ไป แต่พอจะผ่า พี่ก็ต้องไปเอ็กซเรย์ปอดก่อน หมอบอกว่ามีเนื้องอกอยู่ พอคีบชิ้นเนื้อมาดูก็เป็นเนื้อไม่ดี หมอจึงงดผ่าทางโน้น แล้วให้มารักษาทางปอดก่อน"
รายนี้ปรากฏว่าเมื่อไปเอ็กซเรย์กระดูกก็พบว่ากระจายไปกระดูกไหล่ กระดูกไหปลาร้า กระดูกหน้าอกแล้ว สรุปคือ เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายอีกเช่นกัน และสิ่งที่น่าสนใจในรายนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ เคยมีประวัติมาโรงพยาบาลด้วยอาการไอมากเมื่อสองปีที่ผ่านมา แต่รักษาเพียงแค่ได้ยาแก้ไอ ยาแก้ปวด อาการก็หายไป และเมื่อสองเดือนก่อนจะรู้ว่าเป็นมะเร็งปอดก็เคยมาที่แผนกฉุกเฉินด้วยอาการเจ็บหน้าอกข้างขวา โดยก่อนหน้านี้สามวันมีอาการปวดไหล่ซ้ายมาก่อน ปวดเวลาเอี้ยวตัว พออาการปวดไหล่ซ้ายหายไปก็มาปวดหน้าอกขวาแทน ปวดจี๊ดจนทนไม่ไหว
คนไข้เล่าว่า "นึกจะปวดก็ปวด ถ้าเวลาไม่ปวด แม้ไปกดไปทำอะไร มันก็ไม่ปวด ก็ได้ยามาทาน อาการก็หายไป จนถึงตอนนี้ อาการปวดไหล่ ปวดหน้าอก ไม่มีเลย"
รายที่ 4 มะเร็งหลังโพรงจมูกระยะสุดท้าย มาด้วยต่อมน้ำเหลืองที่คอโต
ต่อมน้ำเหลืองที่คอโตสามารถบ่งบอกถึงโรคได้เป็นสิบโรค ตั้งแต่โรคธรรมดาๆ จนถึงโรคร้าย มีสิทธิ์เป็นได้ทั้งนั้น ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ วัณโรค เอดส์ มะเร็งปอด มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งโพรงจมูก ดังกรณีรายนี้
เป็นชายวัย 47 ปี อาชีพนักธุรกิจโรงแรมและเล่นหุ้น เล่าให้ฟังว่า ตอนแรกไปหาหมอที่คลินิกเพราะว่ามีก้อนที่คอด้านซ้ายโต มันมีหนึ่งเม็ดก่อน หมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อมากิน หมอบอกผมว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบ กินอยู่สองเดือน ก้อนก็ยังไม่ยุบ หมอก็ให้ยาขนานเดิมมาอีก ก็ยังยืนยันกับผมว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบนั่นแหละ ผมก็กินยาต่ออีกสองเดือน ยิ่งกินยิ่งมีก้อนโผล่ออกมาอีกเม็ดหนึ่ง แต่อยู่ต่ำลงมา ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิทีนี้ ก็เลยเปลี่ยนหมอไปที่โรงพยาบาล หมอคนนี้จับผมส่องกล้องคีบชิ้นเนื้อมาดู ทีเดียวแค่นั้นก็รู้เลยว่าเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก และเป็นขั้นสุดท้ายด้วย
"แกไม่ซักประวัติอะไรผมมากมาย และผมก็ไม่มีอาการอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับมะเร็งชนิดนี้ด้วย ไม่ว่าหูอื้แ หน้าชา ตาเข เลือดกำเดาออก ผมไม่มี จะมีก็คัดจมูกนิดๆ หน่อยๆ ผมว่าก็เป็นเรื่องธรรมดา"
คนไข้คิดว่าคัดจมูกเป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่ตอนนี้ไม่ธรรมดาซะแล้ว มันกลายเป็นมะเร็งไปเรียบร้อยแล้ว
รายที่ 5 แค่ไอแห้งๆ ก็เป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายได้
ปัญหาเรื่องไอก็เป็นอีกอาการหนึ่งที่ผู้รักษาวินิจฉัยยากว่าเป็นโรคอะไรกันแน่ บางครั้งแค่รักษาตามอาการ ให้ยาแก้ไอ อาการก็หายดี แต่บางครั้งรักษากันจนเกือบครบโรคของระบบทางเดินหายใจและระบบทางหู คอ จมูกแล้วก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ตั้งแต่หวัด คออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดบวม วัณโรค ถุงลมโป่งพอง และสุดท้ายไปจบที่มะเร็งปอด ซึ่งบางรายก็ใช้เวลาหลายปี ส่วนบางรายก็โชคดีเจอเร็วหน่อย ดังกรณีรายนี้
เป็นแม่บ้านวัย 39 ปี ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนด้วยอาการไอแห้งๆ มา 4 เดือน มีไข้หวัดร่วมด้วย รักษาแล้วอาการไอแห้งๆ ก็ยังมีอยู่ ไม่หายขาด ก็ไปอีกรอบหนึ่ง หลังจากรักษาอยู่ 2 เดือน ด้วยอาการเดิม ได้ยามากินอีก อาการก็ยังมีอยู่ ทีนี้จึงเปลี่ยนโรงพยาบาล คนไข้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นปอดบวม ก็ได้ยาฆ่าเชื้อ อาการดีขึ้นแต่ก็ยังไม่หายขาด และผลเอกซเรย์ยังคงผิดปกติอยู่ หมอจึงส่องกล้องคีบชิ้นเนื้อมาดู ผลเป็นมะเร็งปอด และไปเอกซเรย์กระดูกก็ปรากฏว่ากระจายไปกระดูกหลายชิ้นแล้ว หมอจึงสรุปว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
รายที่ 6 มะเร็งต่อมน้ำเหลืองขั้นสุดท้าย แต่มาด้วยอาการแน่นหน้าอก
เป็นนักศึกษาหญิง ปวส.ปีสุดท้าย เธอเล่าให้ฟังว่า "ความจริงตอนแรกที่มีอาการเป็นตั้งแต่เรียนอยู่ปี 1 มันเจ็บแปล๊บๆ น่ะ ไม่ใช่แน่นหน้าอก หนูคิดว่าเป็นโรคหัวใจก็ไปตรวจ แต่ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ อาการก็หายไปเอง พออยู่ๆ ก็มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เพิ่งเป็นปีนี้นี่เอง พี่ดูสิ มาเป็นเอาปีสุดท้ายเสียด้วย ตอนนี้หนูก็กำลังสอบ หนังสือก็ทิ้งไปเลย ไม่ได้เรียนแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องมาเป็นกับหนูด้วย"
รายนี้ได้เจาะไขกระดูก และในที่สุดหมอสรุปว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย
รายที่ 7 แค่คลำได้ก้อนที่หน้าท้องก็เป็นมะเร็งรังไข่ระยะที่สามแล้ว
เป็นนักเรียนหญิง อายุ 14 ปี เธอเล่าให้ฟังว่า "หนูรู้สึกแน่นๆ ท้องมาเดือนหนึ่งแล้ว แต่ตอนนั้นไม่ได้มีก้อนอะไร เพิ่งมาคลำได้ก้อนเมื่อห้าวันก่อนมาโรงพยาบาลนี่เอง และหนูรู้สึกว่าแน่นท้องมากขึ้นในอาทิตย์นี้ ก็ไปหาหมอ หมอก็ผ่าตัดเลยและบอกว่ามันเป็นเนื้อร้าย"
รายนี้ตอนที่ผ่าตัดก็พบว่าเนื้องอกลุกลามไปตามเยื่อหุ้มหลายแห่งแล้ว และมีน้ำในเยื่อบุช่องท้องด้วย ส่วนประวัติอื่นๆ เช่น การมีประจำเดือน ก็มาตามปกติ ไม่ได้ปวดอย่างผิดปกติใดๆ เดี๋ยวนี้นักเรียนหญิงชั้นมัธยมพบมะเร็งรังไข่กันมากขึ้น และส่วนใหญ่อาการที่มาโรงพยาบาลมักเป็นระยะที่สามแล้วเกือบทั้งนั้น ส่วนระยะที่สี่ก็มีคือลุกลามไปปอดแล้ว
รายที่ 8 ทั้งปวดหัวทั้งไอ กลายเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
เป็นชายวัย 47 ปี รับราชการครู มาโรงพยาบาลด้วยอาการปวดหัวและไอ อาการที่ปวดหัวนั้นเริ่มจากที่ท้ายทอย แล้วร้าวมาที่ขมับทั้งสองข้าง ปวดตื้อๆ ตลอดเวลา มีไอร่วมด้วย บางครั้งมีเลือดปน ไปหาหมอก็บอกว่าหลอดเลือดที่หลอดลมแตก ส่วนเอกซเรย์ปอดปกติ ได้แต่ยามากิน อาการก็ไม่ดีขึ้น
หนึ่งเดือนผ่านไป ปวดหัวมีมากขึ้น เริ่มมีอาการตึงๆ ที่คอ กินไม่ค่อยได้ รู้สึกกลืนลำบาก และเริ่มมองเห็นภาพไม่ค่อยชัด ตาพร่าๆ ส่วนอาการไอดสมหะปนเลือดยังมีอยู่ จึงไปโรงพยาบาลอีกครั้ง หมอก็ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร ได้แต่เอกซเรย์ปอดสองครั้ง ก็บอกว่าปกติ ได้ยามากินอีกเช่นเคย อาการก็ยังไม่ดีขึ้น
หนึ่งเดือนครึ่งผ่านไป อาการไอเสมหะปนเลือดมีมากขึ้นอีก ไอทุกวัน และเริ่มคลำได้ก้อนที่คอด้ายซ้าย ก้อนแข็งๆ เจ็บเล็กน้อย อีกสิบวันครบสองเดือน คนไข้มีอาเจียนตอนเช้า อาการอื่นคงเดิม เป็นอย่างนี้อยู่สี่วันจึงไปโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่เปลี่ยนโรงพยาบาล ก็ทำการตรวจทุกอย่างเอกซเรย์ปอดก็พบผิดปกติ ต่อมน้ำเหลืองที่คอก็จิ้มชิ้นเนื้อไปตรวจ พบเป็นมะเร็ง ส่งเสมหะไปตรวจย้อมดูเซลล์ ก็พบเป็นมะเร็ง เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ก็พบเนื้องอก หมอจึงสรุปการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
รายที่ 9 เค้นๆ หน้าอก ในที่สุดก็พบมะเร็งหลอดอาหาร
เป็นพระภิกษุวัย 56 ปี บวชมาได้หนึ่งพรรษา ก่อนหน้านี้เป็นพนักงานขับรถเมล์ระหว่างจังหวัด ทั้งสูบบุหรี่ ทั้งดื่มเหล้า ท่านเล่าให้ฟังว่า "ที่มาโรงพยาบาลในครั้งนี้เพราะกลืนข้าวต้มไม่ลง ส่วนก่อนหน้านี้อาการช่วงแรกเป็น มันรู้สึกเค้นๆ หน้าอกเวลากินข้าว (เค้นๆ หรือที่คนใต้บอกว่าแค้นๆ คืออาการเดียวกัน เป็นอาการที่เวลากินอาหารแล้วรู้สึกกลืนไม่ค่อยลง จะกระจุกอยู่ที่หน้าอก เหมือนกับเวลาที่กินหัวเผือกหัวมันในอัตราที่เร็วเกินไป ก็รู้สึกอาหารผ่านไปได้ลำบาก ต้องดื่มน้ำตาม แล้วยืดคอให้ยาวๆ ถึงจะกลืนได้ลง) หลังจากนั้นพอกินข้าวสวยก็เริ่มติด ต่อมากินข้าวต้มก็ติดอีก กลืนไม่ลง ก็นึกในใจว่าสงสัยอาการไม่ดีแล้วสิท่า จึงมาโรงพยาบาล หมอก็ให้กลืนแป้งกับส่องกล้องเข้าไปดูในหลอดอาหาร ก็บอกว่ามีเนื้องอกเต็มไปหมดแล้ว หมอนัดจะผ่าวันพุธหน้า" ผลจากชิ้นเนื้อก็เป็นมะเร็งหลอดอาหาร และท่านก็ตัดสินใจกลับวัด ไม่ยอมให้ผ่าตัด
นี่เป็นตัวอย่างพอสังเขปที่ยกมาให้ศึกษากัน ต่างเพศ ต่างวัย ต่างอาชีพ อาการที่พบเหล่านี้ยังคงมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ และมากขึ้นทุกวัน จากตัวอย่างจะเห็นว่าเป็นการยากมากที่จะพบอาการเริ่มแรกของมะเร็งด้วยตาเปล่าหรือเอามือคลำ ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะจุดเริ่มต้นยังอยู่ที่ระดับเซลล์ ต้องคีบชิ้นเนื้อข้างในมาดูกับกล้องขยายจึงจะเห็น ในทางปฏิบัติแล้วทำไม่ค่อยได้ จะได้เฉพาะมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งเต้านมเท่านั้น เพราะใช้เครื่องมือง่ายๆ ได้ และเป็นอวัยวะที่ตรวจจากภายนอกได้สะดวก
อย่างไรก็ตาม อยากจะสรุปบทเรียนจากกรณีตัวอย่างนี้ว่า ยิ่งมีข้อจำกัดด้านเครื่องมือและประสบการณ์ของผู้รักษามากเท่าใด เรายิ่งจำเป็นต้องเคร่งครัดในการดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้นเท่านั้น จะผัดวันประกันพรุ่ง หรือมีข้ออ้างโน่นอ้างนี่คงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ถ้าอยากจะชนะมะเร็งก็ต้องใช้วิธีของมะเร็งคือโจมตีเสียก่อน ก่อนที่มะเร็งจะไหวตัวทันและสร้างป้อมปราการทุกด่านให้แน่นหนา อย่าให้มะเร็งเจาะทะลุเข้ามาได้ด้วยการสร้างภูมิชีวิตให้เข้มแข็ง การปล่อยให้มีอาการแล้วจึงไปรักษานั้น ไม่ว่าอาการมากหรืออาการน้อยก็ตาม เป็นความประมาทและไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง และที่สำคัญคือไว้ใจไม่ได้เลยสำหรับมะเร็ง ต่อไปนี้เราจะใช้กลยุทธเดิมๆ ที่รอให้พิสูจน์ว่าเป็นมะเร็งแน่ชัดแล้วจึงลุกขึ้นต่อสู้นั้น กลยุทธ์นี้คงไม่ทันกาลแล้ว และหวังว่าอาการของมะเร็งที่คิดไม่ถึงนี้ คงไม่ทำให้เกิดความกังวลจนหวาดระแวงเกินไปนักนะคะ
ขายการ์ตูนออนไลน์ Facebook
อ่านการ์ตูนออนไลน์ Facebook
อ่านการ์ตูน Facebook
มังงะออนไลน์ Facebook
อ่านมังงะออนไลน์ Facebook
การ์ตูนวังวนปรารถนา Facebook
การ์ตูนโรแมนติก Facebook
ขายการ์ตูนหมึกจีน Facebook
การ์ตูนนางฟ้าซาตาน Facebook
แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก Facebook
การ์ตูนแกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก Facebook
เกมรักพยาบาท Facebook
GOLD รักนี้สีทอง Facebook
เกาะนางพญาเงือก Facebook
หนุ่มสุดขั้วบวกสาวสุดขีด Facebook
วังวนปรารถนา Facebook
คุณหนูไฮโซโยเยรัก Facebook
เจ้าหญิงซ่าส์กับนายหมาบ้า Facebook
รักทั้งตัวและหัวใจ Facebook
หัวใจไม่ร้างรัก Facebook
เหิรฟ้าไปคว้ารัก Facebook
บินไปกับหัวใจสีชมพู Facebook
princessหมึกจีน Facebook
ฝ่าไปให้ถึงฝัน Facebook
หวานใจองค์ชายมองโกล Facebook
หน้ากากนักสืบ Facebook
ราศีมรณะ Facebook
THE B.B.B. ลงเอยที่ความรัก Facebook
เกียรติยศรัก Facebook
SAINT ADAM มารยาปรารถนา Facebook
หนุ่มยักษ์รักสุดฤทธิ์ Facebook
รักแรกแสนรัก Facebook
รอรักสาวซากุระ Facebook
รักโฮ่งๆ ตกลงมั้ย Facebook
หนุ่มนักนวดนิ้วทอง Facebook
รักแบบนี้...กิ๊กเลย Facebook
ขอแก้เผ็ดหนุ่มหลายใจ Facebook
บอดี้การ์ดเจ้าปัญหา Facebook
อ้อมกอดทะเลทราย Facebook
การ์ตูนรอรักในฝัน Facebook
การ์ตูนหัวใจร่ำหารัก Facebook
อุ่นไอรักหนุ่มออฟฟิศ Facebook
การ์ตูนสองสาวสองรัก Facebook
การ์ตูนรอเธอบอกรัก Facebook
การ์ตูนรักระแวง Facebook
การ์ตูนสุดแต่ใจของเธอ Facebook
การ์ตูนหนามชีวิต Facebook
ยอดรักเพชรในดวงใจ Facebook
การ์ตูนวังวนในหัวใจ Facebook
การ์ตูนรักแรกฝังใจ Facebook
การ์ตูนกับดักหัวใจ Facebook
การ์ตูนคุณชายที่รัก Facebook
อ้อมกอดดาวเคล้าเกลียวคลื่น Facebook
การ์ตูนเจ้าสาวเงินตรา Facebook
การ์ตูนเพลงรักสองเรา Facebook
การ์ตูนมนต์รักลมหนาว Facebook
การ์ตูนโอมเพี้ยงเสี่ยงรัก Facebook
ครูจอมซ่าส์หรือนายขาโจ๋ Facebook
เล่ห์รักปักหัวใจ Facebook
การ์ตูนคู่รักนิรันดร Facebook
การ์ตูนชะตารัก Facebook
แฝดหนุ่มมะรุมมะตุ้มรัก Facebook
รูมินเทพบุตรซาตาน Facebook
รักเทวดาท่าจะวุ่น Facebook
รวมเรื่องสั้นMiwa Sakai Facebook
Hot Love หมึกจีน Facebook
การ์ตูนผีกุกกัก Facebook
คุณหนูกับทาสหนุ่ม Facebook
การ์ตูนเธอคือนางเอก Facebook
หนุ่มเซ่อเจอสาวแซ่บ Facebook
Extra Romance หมึกจีน Facebook
เว็บขายการ์ตูนออนไลน์ Facebook
ความเป็นมาของชีส
ชีสเป็นอาหารอย่าง Paradox , ซับซ้อน เริ่มต้นเป็นหนึ่งเรียบง่ายและสมถะ ส่วนผสม : นม เมื่อบวกกับส่วนผสมที่เรียบง่ายอย่างเท่าเทียมกัน แบคทีเรีย , เกลือ , เอนไซม์ และจัดการภายใต้อุณหภูมิที่เหมาะสมและเงื่อนไข , การแปลงเกิดขึ้น ส่งผลให้อาร์เรย์ของผลิตภัณฑ์ของที่แตกต่างกันรูปร่างขนาดและสี กับชุดเกราะรส , รสชาติและพื้นผิว นี้เป็นยอดเยี่ยมชีสของโลก แต่ไม่มีอะไรที่ง่าย ๆ เกี่ยวกับ การทำชีส เวลานาน และแรงงาน เหนื่อยมาก การดูแลที่ดีจะต้องจัดดูแลสัตว์และภูมิประเทศที่ผลิตนมที่มีคุณภาพสูงสำหรับ cheesemaking . เมื่อนมถูกเก็บรวบรวมหลายชั่วโมง วัน และเดือนที่ต้องการเสร็จขั้นตอนของ cheesemaking และอายุต้องผลิตมาก ชีส มาก สามารถไปผิด แต่เมื่อทุกอย่างเป็นไปอย่างถูกต้อง ผลที่ได้คือกว่าสิบสี่ร้อยประเภทของชีสที่คนชอบทั่วโลก
สำรวจความหลากหลายของวิธีที่เราโต้ตอบกับชีส หลาย ประสบการณ์ของเรากับชีสจำกัดที่ชีสเป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมชีสโรยหน้าพิซซ่าร้อน หั่นชีสในอาหารเม็กซิกัน หรืออาหารเม็กซิกัน ทาโก้ หรือ อื่น ๆ , ครีมขนมปังชีส เชดดาร์ชีสในอาหารความสะดวกสบาย เช่นมักกะโรนีและชีส หรือชีสละลายในด้านบนของที่โดดเด่นอย่างแคว้นควิเบคจาน poutine ความต้องการของผู้บริโภคสำหรับอาหารอย่างรวดเร็วและเตรียมอาหาร อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารเป็นหลัก ผู้ใช้ของชีสเป็นส่วนผสมทั่วโลก ที่ความต้องการในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปที่บงการชีสเป็นส่วนผสมลงตัวแบบฉบับ - ฟังก์ชันมันละลาย มีความสอดคล้อง น้ำตาลในทายลักษณะที่ปรากฏเป็นชนิดสมบูรณ์แบบว่าน้ำมันไม่แยกจากชีสมวล เป็นผล ชีสที่ใช้เป็นส่วนผสมประกอบด้วย บ่อยๆ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้พวกเขาทำอย่างต่อเนื่อง มีเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมมากที่ได้สร้างชีสความต้องการที่ดีสำหรับนมและนมและส่วนผสมเช่น โปรตีน นม อาหาร เวย์โปรตีน เมื่อพิจารณาอาหารของ cheesemaking ขณะนี้มูลค่าทางอุตสาหกรรม เป็นแหล่งสำคัญ และการทำงานอย่างโปรตีน แลคโตเฟอร์ริน
มีอีกโลกหนึ่งที่หุ้นของชีสรากทางวัฒนธรรมและประเพณีที่อุดมด้วยพันธุ์ได้ถูกผลิตขึ้นในยุโรปมานานหลายศตวรรษเหล่านี้โบราณประเพณีชีสตอนนี้ถูกสวมกอดโดยเราผลิตช่างฝีมือ ชีส และ ผลในช่วงสามสิบปี Bona fide ชีสวัฒนธรรมได้เกิดในประเทศสหรัฐอเมริกา เนยแข็งผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาขณะนี้คู่แข่งมากที่ดีที่สุดที่ผลิตทั่วโลก เนยแข็งเหล่านี้แตกต่างกันไปในตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เริ่มต้นวัฒนธรรมใช้เมื่อเงื่อนไข ทุ่งหญ้า หรือค้นหาที่สัตว์ถูกเลี้ยงและสัตว์ที่ใช้ผลิตนมตั้งแต่แกะ แพะ วัว ควาย เนยแข็งเหล่านี้ชีวิต หรือหายใจ พวกเขาได้ในบางกรณีชีวิตชั้นสั้นมากชอบไวน์รสชีส Artisan มีเทอรัว , การเชื่อมต่อไปยังสถานที่ มันคือการค้นหาสำหรับเอกลักษณ์ และมักไม่ทำให้ผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้
ในปี 1985 สมาคมชีสอเมริกัน ก่อตั้งโดย Cornell ศาสตราจารย์แฟรงก์ kosikowski ตัดสิน 89 ชีสเข้าไป 30 โรงงานทำชีสที่ประจำปีประชุม ในการประชุมประจําปี 2015 ACS จัดขึ้นในพรอวิเดนซ์ที่ 1799 เนยแข็งที่ทำโดยผู้ผลิตที่ถูกป้อนในการแข่งขันเทศกาลเนยแข็งในระหว่างที่รายการทั้งหมดแสดง พร้อมชิมจ่ายเครื่องบรรณาการความพยายามที่น่าทึ่งของช่างเรา และยอดนิยมในโรงงานทำชีส ถ้าแฟรงค์ kosikowski ยังอยู่ในวันนี้ฉันคิดว่าเขาคงจะภูมิใจมากที่จะเห็นสิ่งที่เขาวิสัยทัศน์เริ่มต้นได้ตระหนัก ความต้องการช่างฝีมือ ชีสมีการเติบโตอย่างน่าทึ่งในสหรัฐอเมริกาและการให้โอกาสและรายได้ในช่วงที่ท้าทายครั้ง สำหรับเกษตรกรและเศรษฐกิจในชนบทการเพิ่มขึ้นของเราช่างอุตสาหกรรมเป็นบางที ชีสอย่างที่ดีที่สุดสำหรับฉันเมื่อใน 2014 , ประธานโอบามาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำของรัฐที่ไวท์เฮ้าส์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสฟร็องซัว ออล็องด์ อะไรผู้นำของโลกฟรีเลือกให้กับประธานาธิบดีแห่งวัฒนธรรมชีสมากที่สุดบนโลกแทนการเลือกจากความหลากหลายของอย่างมากเนยแข็งฝรั่งเศสพิเศษสำหรับเมนู , สีขาวพ่อครัวบ้านเด่นเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรหลักเป็นอเมริกันชีส เฮเซิน , สีฟ้า , หนึ่ง ที่ชื่นชอบของฉันเวอร์มอนต์ช่างฝีมือชีส ช่วงเวลานี้เป็นสัญลักษณ์ให้ฉันคิดไกลแล้วจริงๆ อุตสาหกรรมชีสช่างฝีมือชาวอเมริกันที่มีมา
การเจริญเติบโตของเราช่างอุตสาหกรรม และชีสยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของ cheesemaking ที่เกิดขึ้นตลอดโลกนำเสนอโอกาสที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้การศึกษาแก่ประชากรใหม่ของเกษตรกร affineurs ผู้จัดการ นักศึกษา นักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยี โรงงานทำชีส และชีสผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศิลปะ , การควบคุม , การขาย , การตลาด , และผลกระทบทางวัฒนธรรมของชีส เราได้พยายามอย่างดีที่สุดที่จะทำเพื่อความยุติธรรมหลายมิติของเนยแข็งในเพื่อนน่าเศร้า ที่แม้จะมีการเติบโตที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จช่างชีส ชีส Artisan อุตสาหกรรมทั่วโลกกฎระเบียบที่มีมาภายใต้การพิจารณา ระเบียบที่ควบคุมโรงงานทำชีสในสหรัฐอเมริกาใช้อย่างโรงงานทำชีสอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และขนาดเล็กโรงเรือนที่ผู้ผลิตอาจนมน้อยเป็นห้าตัวผู้ผลิตอุตสาหกรรมมากขึ้นขอให้มาตรฐานของตนเปลี่ยนเป็นพันธุ์ชีส เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้สำหรับชีส การผลิต องค์การอาหารและยาได้ลองพิจารณาห้ามขายเนยแข็งนมดิบพิจารณาความต้องการเพื่อใช้บังคับแทนของนมพาสเจอร์ไรส์ใน cheesemaking . ที่ฉันนับถือเพื่อนร่วมงานและเพื่อนพอล kindstedt รัฐ นมดิบเนยแข็งจะประหยัดคุ้มค่า ใน rawmilk สาระสําคัญของชีสอภิปรายเน้นความแตกต่างพื้นฐานในปรัชญาแบ่งสหรัฐอเมริกาและยุโรปเมื่อมันมาถึงระเบียบของน้ำนมดิบเนยแข็ง และผลิตภัณฑ์อาหารอื่น ๆแบบดั้งเดิม
กระบวนการผลิตชีส ลักษณะของชีสชนิดต่างๆ
สำรวจความหลากหลายของวิธีที่เราโต้ตอบกับชีส หลาย ประสบการณ์ของเรากับชีสจำกัดที่ชีสเป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมชีสโรยหน้าพิซซ่าร้อน หั่นชีสในอาหารเม็กซิกัน หรืออาหารเม็กซิกัน ทาโก้ หรือ อื่น ๆ , ครีมขนมปังชีส เชดดาร์ชีสในอาหารความสะดวกสบาย เช่นมักกะโรนีและชีส หรือชีสละลายในด้านบนของที่โดดเด่นอย่างแคว้นควิเบคจาน poutine ความต้องการของผู้บริโภคสำหรับอาหารอย่างรวดเร็วและเตรียมอาหาร อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารเป็นหลัก ผู้ใช้ของชีสเป็นส่วนผสมทั่วโลก ที่ความต้องการในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปที่บงการชีสเป็นส่วนผสมลงตัวแบบฉบับ - ฟังก์ชันมันละลาย มีความสอดคล้อง น้ำตาลในทายลักษณะที่ปรากฏเป็นชนิดสมบูรณ์แบบว่าน้ำมันไม่แยกจากชีสมวล เป็นผล ชีสที่ใช้เป็นส่วนผสมประกอบด้วย บ่อยๆ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้พวกเขาทำอย่างต่อเนื่อง มีเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมมากที่ได้สร้างชีสความต้องการที่ดีสำหรับนมและนมและส่วนผสมเช่น โปรตีน นม อาหาร เวย์โปรตีน เมื่อพิจารณาอาหารของ cheesemaking ขณะนี้มูลค่าทางอุตสาหกรรม เป็นแหล่งสำคัญ และการทำงานอย่างโปรตีน แลคโตเฟอร์ริน
มีอีกโลกหนึ่งที่หุ้นของชีสรากทางวัฒนธรรมและประเพณีที่อุดมด้วยพันธุ์ได้ถูกผลิตขึ้นในยุโรปมานานหลายศตวรรษเหล่านี้โบราณประเพณีชีสตอนนี้ถูกสวมกอดโดยเราผลิตช่างฝีมือ ชีส และ ผลในช่วงสามสิบปี Bona fide ชีสวัฒนธรรมได้เกิดในประเทศสหรัฐอเมริกา เนยแข็งผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาขณะนี้คู่แข่งมากที่ดีที่สุดที่ผลิตทั่วโลก เนยแข็งเหล่านี้แตกต่างกันไปในตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เริ่มต้นวัฒนธรรมใช้เมื่อเงื่อนไข ทุ่งหญ้า หรือค้นหาที่สัตว์ถูกเลี้ยงและสัตว์ที่ใช้ผลิตนมตั้งแต่แกะ แพะ วัว ควาย เนยแข็งเหล่านี้ชีวิต หรือหายใจ พวกเขาได้ในบางกรณีชีวิตชั้นสั้นมากชอบไวน์รสชีส Artisan มีเทอรัว , การเชื่อมต่อไปยังสถานที่ มันคือการค้นหาสำหรับเอกลักษณ์ และมักไม่ทำให้ผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้
ในปี 1985 สมาคมชีสอเมริกัน ก่อตั้งโดย Cornell ศาสตราจารย์แฟรงก์ kosikowski ตัดสิน 89 ชีสเข้าไป 30 โรงงานทำชีสที่ประจำปีประชุม ในการประชุมประจําปี 2015 ACS จัดขึ้นในพรอวิเดนซ์ที่ 1799 เนยแข็งที่ทำโดยผู้ผลิตที่ถูกป้อนในการแข่งขันเทศกาลเนยแข็งในระหว่างที่รายการทั้งหมดแสดง พร้อมชิมจ่ายเครื่องบรรณาการความพยายามที่น่าทึ่งของช่างเรา และยอดนิยมในโรงงานทำชีส ถ้าแฟรงค์ kosikowski ยังอยู่ในวันนี้ฉันคิดว่าเขาคงจะภูมิใจมากที่จะเห็นสิ่งที่เขาวิสัยทัศน์เริ่มต้นได้ตระหนัก ความต้องการช่างฝีมือ ชีสมีการเติบโตอย่างน่าทึ่งในสหรัฐอเมริกาและการให้โอกาสและรายได้ในช่วงที่ท้าทายครั้ง สำหรับเกษตรกรและเศรษฐกิจในชนบทการเพิ่มขึ้นของเราช่างอุตสาหกรรมเป็นบางที ชีสอย่างที่ดีที่สุดสำหรับฉันเมื่อใน 2014 , ประธานโอบามาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำของรัฐที่ไวท์เฮ้าส์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสฟร็องซัว ออล็องด์ อะไรผู้นำของโลกฟรีเลือกให้กับประธานาธิบดีแห่งวัฒนธรรมชีสมากที่สุดบนโลกแทนการเลือกจากความหลากหลายของอย่างมากเนยแข็งฝรั่งเศสพิเศษสำหรับเมนู , สีขาวพ่อครัวบ้านเด่นเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรหลักเป็นอเมริกันชีส เฮเซิน , สีฟ้า , หนึ่ง ที่ชื่นชอบของฉันเวอร์มอนต์ช่างฝีมือชีส ช่วงเวลานี้เป็นสัญลักษณ์ให้ฉันคิดไกลแล้วจริงๆ อุตสาหกรรมชีสช่างฝีมือชาวอเมริกันที่มีมา
การเจริญเติบโตของเราช่างอุตสาหกรรม และชีสยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของ cheesemaking ที่เกิดขึ้นตลอดโลกนำเสนอโอกาสที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้การศึกษาแก่ประชากรใหม่ของเกษตรกร affineurs ผู้จัดการ นักศึกษา นักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยี โรงงานทำชีส และชีสผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศิลปะ , การควบคุม , การขาย , การตลาด , และผลกระทบทางวัฒนธรรมของชีส เราได้พยายามอย่างดีที่สุดที่จะทำเพื่อความยุติธรรมหลายมิติของเนยแข็งในเพื่อนน่าเศร้า ที่แม้จะมีการเติบโตที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จช่างชีส ชีส Artisan อุตสาหกรรมทั่วโลกกฎระเบียบที่มีมาภายใต้การพิจารณา ระเบียบที่ควบคุมโรงงานทำชีสในสหรัฐอเมริกาใช้อย่างโรงงานทำชีสอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และขนาดเล็กโรงเรือนที่ผู้ผลิตอาจนมน้อยเป็นห้าตัวผู้ผลิตอุตสาหกรรมมากขึ้นขอให้มาตรฐานของตนเปลี่ยนเป็นพันธุ์ชีส เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้สำหรับชีส การผลิต องค์การอาหารและยาได้ลองพิจารณาห้ามขายเนยแข็งนมดิบพิจารณาความต้องการเพื่อใช้บังคับแทนของนมพาสเจอร์ไรส์ใน cheesemaking . ที่ฉันนับถือเพื่อนร่วมงานและเพื่อนพอล kindstedt รัฐ นมดิบเนยแข็งจะประหยัดคุ้มค่า ใน rawmilk สาระสําคัญของชีสอภิปรายเน้นความแตกต่างพื้นฐานในปรัชญาแบ่งสหรัฐอเมริกาและยุโรปเมื่อมันมาถึงระเบียบของน้ำนมดิบเนยแข็ง และผลิตภัณฑ์อาหารอื่น ๆแบบดั้งเดิม
กระบวนการผลิตชีส ลักษณะของชีสชนิดต่างๆ
สรรพคุณของตะลิงปลิง
ตะลิงปลิงเป็นไม้ที่มีพื้นถิ่นกำเนิดในประเทศอินโดนีเซีย และพบตามชายทะเลในประเทศบราซิล มีการปลูกในประเทศไทยมานานแล้ว พบได้ในทั่วไปตามสวนและตามบ้าน ออกผลตามกิ่งก้านและลำต้นเป็นพวงแน่นและสวยงาม จึงเป็นที่นิยมปลูกโดยทั่วไป ผลมีรสเปรี้ยวใช้ในการบริโภค ตะลิงปลิงอยู่ในตระกูลเดียวกับมะเฟือง มีลักษณะตรงกลางระหว่างมะเฟืองกับมะดัน เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เปราะหักง่าย เปลือกต้นมีสีชมพูผิวเรียบมีขนนุ่มปกคลุมตามกิ่ง ส่วนประกอบของใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ก้านใบหนึ่งประกอบไปด้วยใบย่อย 11-37 ใบ มีสีเขียวอ่อนและมีขนนุ่มๆปกคลุมอยู่
การปลูกตะลิงปลิงนั้นปลูกง่าย ชอบดินร่วนปนทรายระบายน้ำได้ดี และไม่ทนน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง ต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดจะมีทรงพุ่มสูงใหญ่และแข็งแกร่งกว่าต้นที่ได้จากการตอนกิ่ง แต่ต้องใช้เวลา 2-3 ปี ถึงจะมีดอกมีผล ขณะที่ต้นที่ได้จากการตอนกิ่งจะออกดอกผลหลังจากปลูกลงดินประมาณ 5-8 เดือน หลังจากปลูกได้นาน 3-4 เดือน ควรหมั่นตัดแต่งกิ่งให้เป็นพุ่ม และถ้าเราไม่ต้องการให้ต้นสูงมากก็ตัดส่วนยอดออก ให้ต้นตะลิงปลิงแตกกิ่งออกในบริเวณข้างๆ เพื่อให้เก็บผลได้ง่ายยิ่งขึ้น
ในการปลูกตะลิงปลิงเมื่อผ่านระยะเวลาที่จะให้ผลนั้น ตามบริเวณลำต้นจะมีการแตกตาโผล่ออกมา แล้วปลายจะเป็นช่อดอก เมื่อช่อดอกผุดออกจะกลายเป็นผล เป็นพวงห้อยระย้าสวยงาม การเก็บเกี่ยวก็มีหลายวิธีตามแต่ถนัด ในส่วนของดอกตะลิงปลิงนั้นจะมีความสวยงาม ออกดอกเป็นช่อหลายช่อตามลำต้นหรือกิ่ง ในแต่ละช่อจะมีความยาวไม่เกิน 6 นิ้ว ในหนึ่งดอกมีกลีบ 5 กลีบ สีแดงเข้ม กลีบเลี้ยง 5 กลีบเช่นกันสีเขียวอมชมพู และที่สำคัญเห็นสวยๆงามๆ อย่างนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยาดีอีกด้วย ดอกของตะลิงปลิงนั้นเราจะนำมาชงเป็นยาสมุนไพร มีสรรพคุณแก้ไอ ละลายไขมันในเลือด ขับเสมหะ และยังช่วยในการขับเมือกมันในลำไส้ได้ดีอีกด้วย
ในส่วนของผลตะลิงปลิงนั้นจะเป็นผลกลมยาวปลายมน ผลยาวประมาณ 4-6 เซ็นติเมตร กว้างประมาณ 2 เซ็นติเมตร เป็นพูตามยาว ผิวเรียบมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีเหลือง เมื่อตัดตามขวางจะมี 5 แฉกเหมือนมะเฟืองแต่เป็นลักษณะแฉกมน ออกผลเป็นช่อห้อย ผลตะลิงปลิงมีรสเปรี้ยว ในส่วนสรรพคุณของผลนั้นช่วยในการเจริญอาหาร บำรุงกระเพาะอาหาร เป็นยาฝาดสมาน แก้เสมหะเหนียว ฟอกโลหิต เป็นยาบำรุงกำลัง แก้ปวดมดลูก แก้ไอ แก้โรคริดสีดวงทวาร ลักปิดลักเปิด ใช้กินเล่นเป็นผลไม้ก็ได้สำหรับผู้ที่ชอบรสเปรี้ยว ใช้ทำน้ำผลไม้ ทำไวน์ ทำแยม หรือว่าจะนำมาถนอมอาหารโดยการดอง เชื่อม แช่อิ่ม กวน นำไปประกอบอาหารที่มีรสเปรี้ยวเช่น ต้มส้ม แกงส้ม ยำ ที่นิยมคือนำมาทานเป็นผักเคียงอาหารอย่างแหนมเนือง หรือน้ำพริก
ผลมีรสเปรี้ยวจัดมีวิตามินซีสูงมาก นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง ไนอาซิน และโปแตสเซียมออกซาเลต รสเปรี้ยวของตะลิงปลิงใช้แทนมะนาวหรือมะขาม แต่รสชาติจะออกคล้ายมะดัน จะทานคู่กับน้ำปลาหวาน หรือกะปิหวานแทนมะม่วงก็อร่อยได้ประโยชน์ เป็นของทานเล่นที่ไม่อ้วน เนื่องจากผลมีรสเปรี้ยวจึงใช้แก้ไอขับเสมหะ บำรุงเลือด นอกจากนี้ยังใช้แก้ข้ออักเสบ แก้คางทูม ตะลิงปลิงนั้นจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีวิตามินเอสูง แต่เหมือนทุกอย่างบนโลกนี้ที่ไม่ควรทานติดต่อกันจำนวนมากเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้เลือดตกตะกอนได้
ในส่วนของใบสดนั้นเราสามารถนำมาตำคั้นน้ำทาพอกแก้อาการคัน ใช้ทำความสะอาดผ้าลินิน ใช้ล้างมือแทนสบู่ได้ดี ตะลิงปลิงเหมาะที่จะปลุกบริเวณบ้านเพราะปลูกง่าย สวยงาม ดอกมีกลิ่นหอม ในงานวิจัยประเทศสิงคโปร์พบว่าสารสกัดเอทานอลที่ได้จากน้ำใบตะลิงปลิงมีคุณสมบัติลดน้ำตาลในเลือดและไขมันในเลือด ดังนั้นการกินน้ำใบตะลิงปลิงก็น่าจะเหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และผู้ที่มีไตรกลีเซอไรด์สูง ในประเทศฟิลิปปินส์มีการวิจัยสารสกัดจากใบตะลิงปลิงในเอทานอล 10% มาทาผื่นคัน ปรากฏว่าได้ผลดี ทำให้ผื่นคันหายดีเร็วกว่าการใช้ยาแก้คันถึงหนึ่งเท่าตัว
สรรพคุณของรากสามสิบ
สรรพคุณของรากสามสิบ
รากสามสิบ นั้นเป็นไม้เถาอยู่ในวงศ์เดียวกับหน่อไม้ฝรั่งจึงมีลักษณะของต้นโดยรวมนั้นเหมือนกับหน่อไม้ฝรั่ง หลายคนบอกว่าใบนั้นจะคล้ายกับต้นผักชีลาว ต้นรากสามสิบจะมีหนามแหลมตามข้องอลง ส่วนกลิ่นของใบจะไม่ฉุนเย็นเหมือนกับผักชีลาว รากสามสิบมีชื่อเรียกแตกต่างกันตามแต่ละภูมิภาค คนในภาคกลางเรียกว่ารากสามสิบ ภาคอีสานเรียกว่า ผักชีช้าง คนปักษ์ใต้เรียกผักหนาม คนภาคเหนือเรียก ม้าสามต่อนเป็นต้น แต่ในบรรดาหมอยาพื้นบ้านมักจะเรียกกันว่า สาวร้อยผัว เนื่องจากสรรพคุณรากสามสิบที่โดดเด่นเนื่องจากจะนำมาปรุงยาบำรุงสตรีให้มีสุขภาพแข็งแรง โดยเปรียบเปรยไว้ว่าไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ยังสามารถมีลูกมีผัวได้ ซึ่งตรงกับความหมายในภาษาสันสกฤตที่มีชื่อเรียกว่า ศตวารี หมายถึงสตรีที่ครอบครองหนึ่งร้อยสามี
ส่วนที่สามารถนำไปรับประทานได้คือส่วนหน่ออ่อนที่แตกใหม่ที่คล้ายกับหน่อไม้ฝรั่งและยอดอ่อนนำมากินกับน้ำพริกหรือใส่แกงต่างๆ นอกจากนั้นในส่วนของผลอ่อนก็กินได้ซึ่งจะมีรสขมฝาด ในหนึ่งปีจะได้กินผลเพียงหนึ่งครั้งในช่วงหน้าฝนประมาณเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม วิธีการสังเกตผลอ่อนที่กินอร่อยนั้นอยู่ในช่วงอายุไม่เกิน 20 วันนับจากออกดอก เมื่อแก่จะสุกสีแดงมีรสหวานอมขมเป็นอาหารของนกนั่นเอง
และส่วนที่สำคัญที่สุดคือส่วนของราก ดอกจะหอมมากเมื่อเบ่งบาน กลิ่นจะลอยตามลมหอมชื่นใจ ลักษณะของรากสามสิบที่อยู่ใต้ดินนั้น จะเป็นกระจุกคล้ายกระสวยออกเป็นพวงคล้ายกับรากของกระชายแต่จะไม่มีเหง้าใหญ่เหมือนกระชาย ถ้าเอารากสามสิบมาทำแช่อิ่มจะใช้รากที่มีอายุไม่อ่อนไม่แก่จะกำลังดี เลือกรากที่ไม่ใหญ่ไม่ยาว มีขนาดสั้นๆ ป้อมๆ หัวเรียวท้ายเรียว
ในตำรับตำรายาอายุรเวทจะใช้รากสามสิบเป็นสมุนไพรหลักสำหรับบำรุงระบบภายในของสตรีในการทำให้กลับมาเป็นสาว โดยจะใช้รากสามสิบต้มกินหรือปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้ง ช่วยปรับสมดุลภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยแก้ปวดท้องประจำเดือน ภาวะมีบุตรยาก ตกขาว ภาวะหมดอารมณ์ทางเพศ บำรุงครรภ์และป้องกันการแท้งเป็นต้น
จากการศึกษาค้นคว้าวิจัยในห้องทดลองพบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของรากสามสิบคือ ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยคลายกล้ามเนื้อของมดลูก บำรุงหัวใจ แก้อาการอักเสบ แก้ปวด ยับยั้งเบาหวาน เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ ลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร แต่ควรระวังในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านม ซีสต์ มะเร็งมดลูก เนื่องจากสรรพคุณรากสามสิบมีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือที่เรียกกันว่าฮอร์โมนเพศหญิงนั่นเอง
คนเฒ่า คนแก่ คนชราก็สามารถพึ่งพาสมุนไพรรากสามสิบได้ เพราะว่ารากสามสิบถือว่าเป็นสมุนไพรแห่งการฟื้นฟูพลังชีวิต เหมาะสมกับผู้สูงอายุที่มีอาการซึมเศร้า หมดอาลัยตายอยาก หมดเรี่ยวหมดแรง โดยจะคั้นเอาน้ำรากสามสิบสดๆ 1 ส่วนสี่แก้ว ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายแดง ดื่มวันละสามครั้ง ก็จะค่อยๆ ช่วยให้กลับมามีชีวิตชีวาสดชื่นขึ้นอีกครั้ง
บทความแนะนำ
รากสามสิบ นั้นเป็นไม้เถาอยู่ในวงศ์เดียวกับหน่อไม้ฝรั่งจึงมีลักษณะของต้นโดยรวมนั้นเหมือนกับหน่อไม้ฝรั่ง หลายคนบอกว่าใบนั้นจะคล้ายกับต้นผักชีลาว ต้นรากสามสิบจะมีหนามแหลมตามข้องอลง ส่วนกลิ่นของใบจะไม่ฉุนเย็นเหมือนกับผักชีลาว รากสามสิบมีชื่อเรียกแตกต่างกันตามแต่ละภูมิภาค คนในภาคกลางเรียกว่ารากสามสิบ ภาคอีสานเรียกว่า ผักชีช้าง คนปักษ์ใต้เรียกผักหนาม คนภาคเหนือเรียก ม้าสามต่อนเป็นต้น แต่ในบรรดาหมอยาพื้นบ้านมักจะเรียกกันว่า สาวร้อยผัว เนื่องจากสรรพคุณรากสามสิบที่โดดเด่นเนื่องจากจะนำมาปรุงยาบำรุงสตรีให้มีสุขภาพแข็งแรง โดยเปรียบเปรยไว้ว่าไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ยังสามารถมีลูกมีผัวได้ ซึ่งตรงกับความหมายในภาษาสันสกฤตที่มีชื่อเรียกว่า ศตวารี หมายถึงสตรีที่ครอบครองหนึ่งร้อยสามี
ส่วนที่สามารถนำไปรับประทานได้คือส่วนหน่ออ่อนที่แตกใหม่ที่คล้ายกับหน่อไม้ฝรั่งและยอดอ่อนนำมากินกับน้ำพริกหรือใส่แกงต่างๆ นอกจากนั้นในส่วนของผลอ่อนก็กินได้ซึ่งจะมีรสขมฝาด ในหนึ่งปีจะได้กินผลเพียงหนึ่งครั้งในช่วงหน้าฝนประมาณเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม วิธีการสังเกตผลอ่อนที่กินอร่อยนั้นอยู่ในช่วงอายุไม่เกิน 20 วันนับจากออกดอก เมื่อแก่จะสุกสีแดงมีรสหวานอมขมเป็นอาหารของนกนั่นเอง
และส่วนที่สำคัญที่สุดคือส่วนของราก ดอกจะหอมมากเมื่อเบ่งบาน กลิ่นจะลอยตามลมหอมชื่นใจ ลักษณะของรากสามสิบที่อยู่ใต้ดินนั้น จะเป็นกระจุกคล้ายกระสวยออกเป็นพวงคล้ายกับรากของกระชายแต่จะไม่มีเหง้าใหญ่เหมือนกระชาย ถ้าเอารากสามสิบมาทำแช่อิ่มจะใช้รากที่มีอายุไม่อ่อนไม่แก่จะกำลังดี เลือกรากที่ไม่ใหญ่ไม่ยาว มีขนาดสั้นๆ ป้อมๆ หัวเรียวท้ายเรียว
ในตำรับตำรายาอายุรเวทจะใช้รากสามสิบเป็นสมุนไพรหลักสำหรับบำรุงระบบภายในของสตรีในการทำให้กลับมาเป็นสาว โดยจะใช้รากสามสิบต้มกินหรือปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้ง ช่วยปรับสมดุลภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยแก้ปวดท้องประจำเดือน ภาวะมีบุตรยาก ตกขาว ภาวะหมดอารมณ์ทางเพศ บำรุงครรภ์และป้องกันการแท้งเป็นต้น
จากการศึกษาค้นคว้าวิจัยในห้องทดลองพบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของรากสามสิบคือ ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยคลายกล้ามเนื้อของมดลูก บำรุงหัวใจ แก้อาการอักเสบ แก้ปวด ยับยั้งเบาหวาน เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ ลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร แต่ควรระวังในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านม ซีสต์ มะเร็งมดลูก เนื่องจากสรรพคุณรากสามสิบมีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือที่เรียกกันว่าฮอร์โมนเพศหญิงนั่นเอง
คนเฒ่า คนแก่ คนชราก็สามารถพึ่งพาสมุนไพรรากสามสิบได้ เพราะว่ารากสามสิบถือว่าเป็นสมุนไพรแห่งการฟื้นฟูพลังชีวิต เหมาะสมกับผู้สูงอายุที่มีอาการซึมเศร้า หมดอาลัยตายอยาก หมดเรี่ยวหมดแรง โดยจะคั้นเอาน้ำรากสามสิบสดๆ 1 ส่วนสี่แก้ว ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายแดง ดื่มวันละสามครั้ง ก็จะค่อยๆ ช่วยให้กลับมามีชีวิตชีวาสดชื่นขึ้นอีกครั้ง
เรื่องราวน่ารู้เรียบเรียงจากสารคดีคุณภาพในรูปแบบบทความ
กดถูกใจแฟนเพจเพื่อติดตามและอัพเดตบทความใหม่ๆ คลิกเลย
กดถูกใจแฟนเพจเพื่อติดตามและอัพเดตบทความใหม่ๆ คลิกเลย
บทความแนะนำ
ร้อนนี้ดื่มน้ำผลไม้แบบใดดี
ร้อนนี้ดื่มน้ำผลไม้แบบใดดี
อากาศร้อนๆ ถ้าได้ดื่มน้ำผลไม้แช่เย็นสักแก้วหรือสักขวดก็จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันตาเห็นแต่จะเลือกชนิดคั้นสด หรือชนิดใส่ขวดและกล่อง แบบไหนดีกว่ากัน
น้ำผลไม้แช่เย็นๆ ที่ดื่มปุ๊บแล้วสดชื่นปั๊บ ก็เพราะในน้ำผลไม้มีน้ำตาลฟรุคโตสที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็วทันทีกว่าผลไม้ที่หั่นเป็นชิ้นๆ แถมความเย็นก็จะไปช่วยคลายร้อนในร่างกายให้รู้สึกสดชื่นขึ้น อันเป็นการทำงานของความหวานบวกกับความเย็นและถ้าจะให้ดีควรเป็นชนิดคั้นสดหรือสกัดเย็น
น้ำผลไม้สกัดเย็น
ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นคำว่า “สกัดเย็น” ซึ่งเป็นกรรมวิธีการผลิตที่การันตีถึงของดีมีประโยชน์ โดยที่วิตามินต่างๆ ไม่ถูกทำลายไป คุณจึงเห็น
น้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว ผลิตด้วยวิธีสกัดเย็นเต็มท้องตลาด รวมทั้งน้ำผลไม้สกัดเย็น เพราะความร้อนไม่ไปทำลายวิตามินต่างๆ
แต่ในทางกลับกันความร้อนก็สามารถไปฆ่าเชื้อโรคทำให้อาหารสะอาดและเก็บได้นานขึ้น น้ำผลไม้สกัดเย็น คือน้ำผลไม้คั้นสดที่ไม่ผ่าน
ความร้อน จึงควรดื่มทันทีที่คั้นเสร็จ หรือไม่ก็แช่เย็นไว้ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคเติบโตได้เร็ว ปัจจุบันเทรนด์การดื่ม น้ำผลไม้สกัดเย็นเพื่อสุขภาพ เช่น เสริมวิตามินซี ช่วยบู๊ตอัพร่างกาย ดีท็อกซ์ ขับสารพิษ กำลังมาแรง
ดังจะเห็นได้จากในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ หรือทาง อินเทอร์เน็ต และไม่ใช่น้ำผลไม้ชนิดเดียวอย่างน้ำส้มคั้นที่มีขายทั่วไปตามริมถนน แต่จะมีน้ำหลากหลายขึ้น เพราะเชื่อว่าน้ำผลไม้ชนิดเดียวหวานเกินไปจึงผสมน้ำผักรวมไปด้วยเพื่อให้ได้วิตามินครบถ้วน เช่น น้ำแอปเปิ้ลเขียวผสมเซเลอรี น้ำต้นข้าวสาลีอ่อน ผสมน้ำแอปเปิ้ลเขียวและน้ำฝรั่ง เป็นต้น
น้ำผลไม้สดเหล่านี้มักจะใส่ขวดแก้วหรือพลาสติกใสเนื้อแข็งคุณภาพดีเพื่อไม่ให้กรดในน้ำผลไม้ไปทำปฏิกิริยากับพลาสติก และยังเพิ่มลูกเล่นด้วยการใส่ขวดสี่เหลี่ยม ขวดอ้วนกลมให้เหมือนกับยาเป็นต้น บางแบรนด์พิถีพิถันเรื่องอุปกรณ์การคั้น เพราะปัจจุบันมีหลากหลายแบบให้เลือก เครื่องที่ใหญ่เกินไปและคั้นได้จำนวนมาก ในขณะทำงานเครื่องจะเกิดความร้อนและทำให้น้ำผลไม้สูญเสียวิตามินได้ ดังนั้นบางแบรนด์จึงเลือกเครื่องคั้นหรือสกัดน้ำผลไม้ซึ่งมีส่วนที่เป็นตัวคั้น (ที่ต้องใช้ไฟฟ้า) ไม่ใหญ่เกินไป และยังแยกใช้เครื่องที่สกัดพืชหัว เช่น แครอต บีตรูต กับผลไม้อย่างส้มที่มีน้ำมาก คนละเครื่อง และมีเทคนิควิธีคั้นเพื่อเพิ่มเนื้อบีตรูต หรือแครอตลงไปด้วยนิดหน่อย เพื่อช่วยเพิ่มกากใย
ให้ร่างกายเป็นต้น
น้ำผลไม้ เหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นระดับพรีเมียมราคาสูง ไม่มีขายทั่วไปให้เห็นแต่จะขายเฉพาะในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ หรือร้านอาหาร ร้านกาแฟ
ในย่านหรู และขายทางอินเทอร์เน็ตตามออเดอร์ ราคาขั้นต่ำประมาณขวดละ 100 บาท จึงไม่ใช่น้ำผลไม้ภาพลักษณ์เดิมๆ อย่างที่เคยเห็น ส่วนคุณภาพก็ตามราคาและพอมั่นใจได้ว่าจะเก็บแช่เย็นไว้อย่างดี
น้ำผลไม้ 100 เปอร์เซ็นต์มีจริงไหม
นอกจาก น้ำผลไม้สกัดเย็น แล้ว น้ำผลไม้พร้อมดื่มที่คุณคุ้นเคยซึ่งวางขายอยู่ในร้านสะดวกซื้อ ทั้งชนิดขวดและชนิดกล่อง ทั้งผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศยี่ห้อแตกต่างกันไป จะมีฉลากที่เขียนกำกับไว้ ซึ่งบางคนอ่านแล้วจะงงๆ เช่น “น้ำผลไม้ 100%” (100% Juice) หมายถึงทำจากผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งล้วนๆ ไม่มีผลไม้อย่างอื่นปะปน “น้ำผลไม้ 100% จากน้ำผลไม้เข้มข้น” (100% Juice from Concentrate) หมายถึงทำจากน้ำผลไม้เข้มข้นมาเจือจางด้วยน้ำตามอัตราส่วน เพื่อให้มีคุณภาพเหมือนกับน้ำผลไม้ 100%
ส่วนน้ำผลไม้ที่ไม่ได้มาจากผลไม้ล้วนๆ ในฉลากต้องบอกตัวเลขกำกับด้วยว่าทำจากผลไม้กี่เปอร์เซ็นต์ เช่น น้ำส้ม 40% อีก 60% อาจเป็นน้ำแต่งสีแต่งกลิ่น ให้เหมือนน้ำส้มจริงๆ หรือมีส่วนผสมอื่น เช่น วุ้นน้ำมะพร้าว เกล็ดส้ม ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าต้องระบุให้ชัดเจน แต่อย่างไรก็ต้องมีส่วนผสมที่เป็นผลไม้ไม่ต่ำกว่า 20% จึงจะใช้คำว่า “น้ำผลไม้” ได้จากข้อกำหนดเหล่านี้จึงไม่ได้หมายความว่าไม่มีส่วนผสมอื่นๆ นอกจากน้ำผลไม้ เพราะฉะนั้นน้ำผลไม้จึงสามารถใส่สี กลิ่น รส เติมให้ถูกใจผู้บริโภคได้ แต่ต้องมีการระบุไว้ในฉลากให้ชัดเจน ถ้าคุณอ่านดีๆ จะเห็นว่าเขียนเป็นเปอร์เซ็นต์ (แต่ตัวเล็กมาก) บางแบรนด์ใช้คำว่า ไม่เติมน้ำตาล (No Sugar Added) แปลว่าไม่มีการเติมน้ำตาลลงไป เพื่อปรุงรสให้หวานกว่าธรรมชาติของผลไม้นั้น
น้ำผลไม้ต่างประเทศที่ระบุว่า “ทำจากน้ำผลไม้ 100%” (Made with 100% Juice) ก็คือมีน้ำผลไม้ 100% เป็นส่วนผสม อาจเป็นน้ำผลไม้หลายชนิดผสมกัน หรือเป็นน้ำผลไม้ 100% ผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ก็ได้ ส่วนน้ำผลไม้ที่ใส่ขวดหรือกล่องแบบใด จะดีกว่านั้นขึ้นอยู่กับระบบการฆ่าเชื้อโรค โดยทั่วไป ต้องฆ่าเชื้อด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งก่อน จึงเก็บได้นานเป็นน้ำผลไม้พร้อมดื่มโดยไม่ต้องใส่ตู้เย็น เช่น ถ้าเป็นการพาสเจอไรซ์โดยให้ความร้อนด้วยอุณหภูมิ ที่ไม่สูงนัก พอๆ กับการต้มเดือด แล้วจึงนำน้ำผลไม้ ไปใส่ขวด/กล่อง วิธีนี้ไม่ได้ฆ่าเชื้อโรคทั้งหมดจึงเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 2-3 สัปดาห์ แต่ถ้าไว้นอกตู้เย็นก็จะเสียเร็วขึ้น ถ้าเป็นระบบสเตอริไรซ์จะบรรจุน้ำผลไม้ในขวด/กล่องหรือกระป๋องแล้วให้ความร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 100 องศาเซลเซียสและทำให้เย็นทันที ส่วนกระบวนการ ยูเอชที คือให้ความร้อนน้ำผลไม้ที่อุณหภูมิสูงกว่า 121 องศาเซลเซียสอย่างน้อย 0.1 วินาทีแล้วทำให้เย็นทันที ก่อนที่จะบรรจุลงในกล่องยูเอชทีที่ปลอดเชื้อ
ด้วยความร้อนที่สูงมากเช่นนี้ เชื้อโรคจึงตายหมด ไม่จำเป็นต้องเติมสารกันบูด น้ำผลไม้เหล่านี้จึงเขียนบนฉลากว่า “ไม่ใช้วัตถุกันเสีย” (No Preservatives) ทำให้คนซื้อที่ไม่อ่านละเอียดเข้าใจสับสนว่าน่าจะเป็นน้ำผลไม้บริสุทธิ์ (ที่มีวิตามินด้วย) และแน่นอนว่าความร้อนสูงขนาดนี้ย่อมทำลายวิตามินต่างๆ ไปโดยปริยาย น้ำผลไม้เหล่านี้จึงต้องเติมวิตามินต่างๆ กลับเข้าไปเพื่อให้นน้ำผลไม้กลับมามีวิตามินและคุณค่าทางอาหารอีกครั้ง ซึ่งจะเติมมากเติมน้อยเป็นประโยชน์ต่อร่างกายหรือเท่ากับน้ำผลไม้คั้นสดหรือไม่ คุณก็ต้องอ่านฉลากให้ละเอียด
เรื่องของน้ำผลไม้ถ้าจะดื่มให้คลายร้อน มี วิตามิน และคุณค่าอาหารเต็มเปี่ยมก็ดูจะยุ่งยากใช้ได้อยู่ คล้ายจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ไม่ง่าย หน้าร้อนนี้ ก่อนหยิบน้ำผลไม้พร้อมดื่มรสที่คุณชอบก็ควรอ่านฉลากให้ละเอียด ถ้ากลัวยุ่งยากและไม่ซีเรียสก็ดื่มสลับๆ กันไปทั้งชนิดพร้อมดื่มและคั้นสด เพราะถ้ามัวแต่คิดไปคิดมาอาจทำให้ ความร้อน ในร่างกายเพิ่มขึ้น น้ำผลไม้เลยไม่ได้ช่วยให้คลายร้อนกันพอดี
อากาศร้อนๆ ถ้าได้ดื่มน้ำผลไม้แช่เย็นสักแก้วหรือสักขวดก็จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันตาเห็นแต่จะเลือกชนิดคั้นสด หรือชนิดใส่ขวดและกล่อง แบบไหนดีกว่ากัน
น้ำผลไม้แช่เย็นๆ ที่ดื่มปุ๊บแล้วสดชื่นปั๊บ ก็เพราะในน้ำผลไม้มีน้ำตาลฟรุคโตสที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็วทันทีกว่าผลไม้ที่หั่นเป็นชิ้นๆ แถมความเย็นก็จะไปช่วยคลายร้อนในร่างกายให้รู้สึกสดชื่นขึ้น อันเป็นการทำงานของความหวานบวกกับความเย็นและถ้าจะให้ดีควรเป็นชนิดคั้นสดหรือสกัดเย็น
น้ำผลไม้สกัดเย็น
ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นคำว่า “สกัดเย็น” ซึ่งเป็นกรรมวิธีการผลิตที่การันตีถึงของดีมีประโยชน์ โดยที่วิตามินต่างๆ ไม่ถูกทำลายไป คุณจึงเห็น
น้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว ผลิตด้วยวิธีสกัดเย็นเต็มท้องตลาด รวมทั้งน้ำผลไม้สกัดเย็น เพราะความร้อนไม่ไปทำลายวิตามินต่างๆ
แต่ในทางกลับกันความร้อนก็สามารถไปฆ่าเชื้อโรคทำให้อาหารสะอาดและเก็บได้นานขึ้น น้ำผลไม้สกัดเย็น คือน้ำผลไม้คั้นสดที่ไม่ผ่าน
ความร้อน จึงควรดื่มทันทีที่คั้นเสร็จ หรือไม่ก็แช่เย็นไว้ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคเติบโตได้เร็ว ปัจจุบันเทรนด์การดื่ม น้ำผลไม้สกัดเย็นเพื่อสุขภาพ เช่น เสริมวิตามินซี ช่วยบู๊ตอัพร่างกาย ดีท็อกซ์ ขับสารพิษ กำลังมาแรง
ดังจะเห็นได้จากในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ หรือทาง อินเทอร์เน็ต และไม่ใช่น้ำผลไม้ชนิดเดียวอย่างน้ำส้มคั้นที่มีขายทั่วไปตามริมถนน แต่จะมีน้ำหลากหลายขึ้น เพราะเชื่อว่าน้ำผลไม้ชนิดเดียวหวานเกินไปจึงผสมน้ำผักรวมไปด้วยเพื่อให้ได้วิตามินครบถ้วน เช่น น้ำแอปเปิ้ลเขียวผสมเซเลอรี น้ำต้นข้าวสาลีอ่อน ผสมน้ำแอปเปิ้ลเขียวและน้ำฝรั่ง เป็นต้น
น้ำผลไม้สดเหล่านี้มักจะใส่ขวดแก้วหรือพลาสติกใสเนื้อแข็งคุณภาพดีเพื่อไม่ให้กรดในน้ำผลไม้ไปทำปฏิกิริยากับพลาสติก และยังเพิ่มลูกเล่นด้วยการใส่ขวดสี่เหลี่ยม ขวดอ้วนกลมให้เหมือนกับยาเป็นต้น บางแบรนด์พิถีพิถันเรื่องอุปกรณ์การคั้น เพราะปัจจุบันมีหลากหลายแบบให้เลือก เครื่องที่ใหญ่เกินไปและคั้นได้จำนวนมาก ในขณะทำงานเครื่องจะเกิดความร้อนและทำให้น้ำผลไม้สูญเสียวิตามินได้ ดังนั้นบางแบรนด์จึงเลือกเครื่องคั้นหรือสกัดน้ำผลไม้ซึ่งมีส่วนที่เป็นตัวคั้น (ที่ต้องใช้ไฟฟ้า) ไม่ใหญ่เกินไป และยังแยกใช้เครื่องที่สกัดพืชหัว เช่น แครอต บีตรูต กับผลไม้อย่างส้มที่มีน้ำมาก คนละเครื่อง และมีเทคนิควิธีคั้นเพื่อเพิ่มเนื้อบีตรูต หรือแครอตลงไปด้วยนิดหน่อย เพื่อช่วยเพิ่มกากใย
ให้ร่างกายเป็นต้น
น้ำผลไม้ เหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นระดับพรีเมียมราคาสูง ไม่มีขายทั่วไปให้เห็นแต่จะขายเฉพาะในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ หรือร้านอาหาร ร้านกาแฟ
ในย่านหรู และขายทางอินเทอร์เน็ตตามออเดอร์ ราคาขั้นต่ำประมาณขวดละ 100 บาท จึงไม่ใช่น้ำผลไม้ภาพลักษณ์เดิมๆ อย่างที่เคยเห็น ส่วนคุณภาพก็ตามราคาและพอมั่นใจได้ว่าจะเก็บแช่เย็นไว้อย่างดี
น้ำผลไม้ 100 เปอร์เซ็นต์มีจริงไหม
นอกจาก น้ำผลไม้สกัดเย็น แล้ว น้ำผลไม้พร้อมดื่มที่คุณคุ้นเคยซึ่งวางขายอยู่ในร้านสะดวกซื้อ ทั้งชนิดขวดและชนิดกล่อง ทั้งผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศยี่ห้อแตกต่างกันไป จะมีฉลากที่เขียนกำกับไว้ ซึ่งบางคนอ่านแล้วจะงงๆ เช่น “น้ำผลไม้ 100%” (100% Juice) หมายถึงทำจากผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งล้วนๆ ไม่มีผลไม้อย่างอื่นปะปน “น้ำผลไม้ 100% จากน้ำผลไม้เข้มข้น” (100% Juice from Concentrate) หมายถึงทำจากน้ำผลไม้เข้มข้นมาเจือจางด้วยน้ำตามอัตราส่วน เพื่อให้มีคุณภาพเหมือนกับน้ำผลไม้ 100%
ส่วนน้ำผลไม้ที่ไม่ได้มาจากผลไม้ล้วนๆ ในฉลากต้องบอกตัวเลขกำกับด้วยว่าทำจากผลไม้กี่เปอร์เซ็นต์ เช่น น้ำส้ม 40% อีก 60% อาจเป็นน้ำแต่งสีแต่งกลิ่น ให้เหมือนน้ำส้มจริงๆ หรือมีส่วนผสมอื่น เช่น วุ้นน้ำมะพร้าว เกล็ดส้ม ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าต้องระบุให้ชัดเจน แต่อย่างไรก็ต้องมีส่วนผสมที่เป็นผลไม้ไม่ต่ำกว่า 20% จึงจะใช้คำว่า “น้ำผลไม้” ได้จากข้อกำหนดเหล่านี้จึงไม่ได้หมายความว่าไม่มีส่วนผสมอื่นๆ นอกจากน้ำผลไม้ เพราะฉะนั้นน้ำผลไม้จึงสามารถใส่สี กลิ่น รส เติมให้ถูกใจผู้บริโภคได้ แต่ต้องมีการระบุไว้ในฉลากให้ชัดเจน ถ้าคุณอ่านดีๆ จะเห็นว่าเขียนเป็นเปอร์เซ็นต์ (แต่ตัวเล็กมาก) บางแบรนด์ใช้คำว่า ไม่เติมน้ำตาล (No Sugar Added) แปลว่าไม่มีการเติมน้ำตาลลงไป เพื่อปรุงรสให้หวานกว่าธรรมชาติของผลไม้นั้น
น้ำผลไม้ต่างประเทศที่ระบุว่า “ทำจากน้ำผลไม้ 100%” (Made with 100% Juice) ก็คือมีน้ำผลไม้ 100% เป็นส่วนผสม อาจเป็นน้ำผลไม้หลายชนิดผสมกัน หรือเป็นน้ำผลไม้ 100% ผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ก็ได้ ส่วนน้ำผลไม้ที่ใส่ขวดหรือกล่องแบบใด จะดีกว่านั้นขึ้นอยู่กับระบบการฆ่าเชื้อโรค โดยทั่วไป ต้องฆ่าเชื้อด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งก่อน จึงเก็บได้นานเป็นน้ำผลไม้พร้อมดื่มโดยไม่ต้องใส่ตู้เย็น เช่น ถ้าเป็นการพาสเจอไรซ์โดยให้ความร้อนด้วยอุณหภูมิ ที่ไม่สูงนัก พอๆ กับการต้มเดือด แล้วจึงนำน้ำผลไม้ ไปใส่ขวด/กล่อง วิธีนี้ไม่ได้ฆ่าเชื้อโรคทั้งหมดจึงเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 2-3 สัปดาห์ แต่ถ้าไว้นอกตู้เย็นก็จะเสียเร็วขึ้น ถ้าเป็นระบบสเตอริไรซ์จะบรรจุน้ำผลไม้ในขวด/กล่องหรือกระป๋องแล้วให้ความร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 100 องศาเซลเซียสและทำให้เย็นทันที ส่วนกระบวนการ ยูเอชที คือให้ความร้อนน้ำผลไม้ที่อุณหภูมิสูงกว่า 121 องศาเซลเซียสอย่างน้อย 0.1 วินาทีแล้วทำให้เย็นทันที ก่อนที่จะบรรจุลงในกล่องยูเอชทีที่ปลอดเชื้อ
ด้วยความร้อนที่สูงมากเช่นนี้ เชื้อโรคจึงตายหมด ไม่จำเป็นต้องเติมสารกันบูด น้ำผลไม้เหล่านี้จึงเขียนบนฉลากว่า “ไม่ใช้วัตถุกันเสีย” (No Preservatives) ทำให้คนซื้อที่ไม่อ่านละเอียดเข้าใจสับสนว่าน่าจะเป็นน้ำผลไม้บริสุทธิ์ (ที่มีวิตามินด้วย) และแน่นอนว่าความร้อนสูงขนาดนี้ย่อมทำลายวิตามินต่างๆ ไปโดยปริยาย น้ำผลไม้เหล่านี้จึงต้องเติมวิตามินต่างๆ กลับเข้าไปเพื่อให้นน้ำผลไม้กลับมามีวิตามินและคุณค่าทางอาหารอีกครั้ง ซึ่งจะเติมมากเติมน้อยเป็นประโยชน์ต่อร่างกายหรือเท่ากับน้ำผลไม้คั้นสดหรือไม่ คุณก็ต้องอ่านฉลากให้ละเอียด
เรื่องของน้ำผลไม้ถ้าจะดื่มให้คลายร้อน มี วิตามิน และคุณค่าอาหารเต็มเปี่ยมก็ดูจะยุ่งยากใช้ได้อยู่ คล้ายจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ไม่ง่าย หน้าร้อนนี้ ก่อนหยิบน้ำผลไม้พร้อมดื่มรสที่คุณชอบก็ควรอ่านฉลากให้ละเอียด ถ้ากลัวยุ่งยากและไม่ซีเรียสก็ดื่มสลับๆ กันไปทั้งชนิดพร้อมดื่มและคั้นสด เพราะถ้ามัวแต่คิดไปคิดมาอาจทำให้ ความร้อน ในร่างกายเพิ่มขึ้น น้ำผลไม้เลยไม่ได้ช่วยให้คลายร้อนกันพอดี
8 วิธีแก้ปากเหม็นขั้นเทพ
8 วิธีแก้ปากเหม็นขั้นเทพ
ปากเหม็น อีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ่นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก
สาเหตุของปัญหาปากเหม็นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่
การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากไม่ทั่วถึง ฟันผุ แผลในช่องปาก ลิ้นเป็นฝ้า เนื่องจากแบคทีเรีย น้ำลาย การสูบบุหรี่ การใส่ฟันปลอมหรือเครื่องมือทางการแพทย์ แล้วไม่ได้รับการดูแลทำความสะอาดอย่างถูกต้อง
8 วิธีบรรเทาอาการปากเหม็นปากมีกลิ่นแรง
1. เกลือ
เพียงอมเกลือก่อนแปรงฟัน โดยเกลือจะช่วยให้สุขภาพเหงือกและฟันแข็งแรง แถมยังช่วยแก้ปัญหาปากเหม็นได้ดีอีกด้วย
2. น้ำมันมะพร้าว
อมน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนชาไว้สักพักก่อนช่วงเวลาอาหารเช้า 5 นาทีก็จะช่วยดับกลิ่นปากได้ และยังช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียในช่องปากอีกด้วย
3. ใบข่อย
เพียงนำใบข่อยมาลอกเปลือกออก จากนั้นเคี้ยวประมาณ 1-2 นาที แล้วคายทิ้ง จะช่วยดับกลิ่นปากได้เป็นอย่างดี
4. ใบผักชีฝรั่งหรือกานพลู
เพียงนำใบผักชีฝรั่งหรือใบกานพลูมาเคี้ยวหลังอาหาร ก็จะช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น
5. ใบฝรั่ง
นำใบฝรั่งมาล้างให้สะอาด นำมาเคี้ยวแล้วคายทิ้งจะช่วยดับกลิ่นปากได้
6. งดอาหารที่มีกลิ่นแรง
โดยเฉพาะกระเทียม หอมใหญ่ พริกไทย เนยแข็ง และกาแฟ
7. ใบชา
นำชาไปต้ม แล้วนำน้ำที่ได้จากการต้มมาบ้วนปากก็จะช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น
8. ไม่ควรปล่อยให้ปากแห้ง
เชื้อแบคทีเรียในช่องปากจะเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีและเป็นที่มาของกลิ่นปาก เมื่อปากแห้งควรดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
บทความแนะนำ
ปากเหม็น อีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ่นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก
สาเหตุของปัญหาปากเหม็นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่
การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากไม่ทั่วถึง ฟันผุ แผลในช่องปาก ลิ้นเป็นฝ้า เนื่องจากแบคทีเรีย น้ำลาย การสูบบุหรี่ การใส่ฟันปลอมหรือเครื่องมือทางการแพทย์ แล้วไม่ได้รับการดูแลทำความสะอาดอย่างถูกต้อง
8 วิธีบรรเทาอาการปากเหม็นปากมีกลิ่นแรง
1. เกลือ
เพียงอมเกลือก่อนแปรงฟัน โดยเกลือจะช่วยให้สุขภาพเหงือกและฟันแข็งแรง แถมยังช่วยแก้ปัญหาปากเหม็นได้ดีอีกด้วย
2. น้ำมันมะพร้าว
อมน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนชาไว้สักพักก่อนช่วงเวลาอาหารเช้า 5 นาทีก็จะช่วยดับกลิ่นปากได้ และยังช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียในช่องปากอีกด้วย
3. ใบข่อย
เพียงนำใบข่อยมาลอกเปลือกออก จากนั้นเคี้ยวประมาณ 1-2 นาที แล้วคายทิ้ง จะช่วยดับกลิ่นปากได้เป็นอย่างดี
4. ใบผักชีฝรั่งหรือกานพลู
เพียงนำใบผักชีฝรั่งหรือใบกานพลูมาเคี้ยวหลังอาหาร ก็จะช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น
5. ใบฝรั่ง
นำใบฝรั่งมาล้างให้สะอาด นำมาเคี้ยวแล้วคายทิ้งจะช่วยดับกลิ่นปากได้
6. งดอาหารที่มีกลิ่นแรง
โดยเฉพาะกระเทียม หอมใหญ่ พริกไทย เนยแข็ง และกาแฟ
7. ใบชา
นำชาไปต้ม แล้วนำน้ำที่ได้จากการต้มมาบ้วนปากก็จะช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น
8. ไม่ควรปล่อยให้ปากแห้ง
เชื้อแบคทีเรียในช่องปากจะเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีและเป็นที่มาของกลิ่นปาก เมื่อปากแห้งควรดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
เรื่องราวน่ารู้เรียบเรียงจากสารคดีคุณภาพในรูปแบบบทความ
กดถูกใจแฟนเพจเพื่อติดตามและอัพเดตบทความใหม่ๆ คลิกเลย
กดถูกใจแฟนเพจเพื่อติดตามและอัพเดตบทความใหม่ๆ คลิกเลย
บทความแนะนำ
Subscribe to:
Posts (Atom)
Beginner's Cryptocurrencies
Track Cryptocurrencies
Make Money i.e.
Get Cryptocurrencies
Initial Coin Offering
Asset Invest Cryptocurrencies
Drawbacks Cryptocurrencies
Future Cryptocurrency
Cryptocurrency FAQ
Performing Cryptocurrencies
Best Altcoins 2025
Bitcoin Overview 2025
Ethereum Overview 2025
Solana Overview 2025
Ripple Overview 2025
Cardano Overview 2025
Polygon Overview 2025
Chainlink Overview 2025
Polkadot Overview 2025
Avalanche Overview 2025
Helium Overview 2025
homeowners insurance
home insurance
state farm car insurance
comprehensive insurance
commercial insurance
cheap auto insurance
cheap health insurance
indemnity
car insurance companies
progressive quote
usaa car insurance
insurance near me
term life insurance
auto insurance near me
state farm car insurance
comprehensive insurance
progressive home insurance
house insurance
progressive renters insurance
state farm insurance quote
metlife auto insurance
best insurance companies
progressive auto insurance quote
cheap car insurance quotes
allstate car insurance
rental car insurance
car insurance online
liberty mutual car insurance
cheap car insurance near me
best auto insurance
home insurance companies
usaa home insurance
list of car insurance companies
full coverage insurance
allstate insurance near me
cheap insurance quotes
national insurance
progressive home insurance
house insurance
health insurance quotes
ameritas dental
state farm renters insurance
medicare supplement plans
progressive renters insurance
aetna providers
title insurance
sr22 insurance
medicare advantage plans
aetna health insurance
ambetter insurance
umr insurance
massmutual 401k
private health insurance
assurant renters insurance
assurant insurance
dental insurance plans
state farm insurance quote
health insurance plans
workers compensation insurance
geha dental
metlife auto insurance
boat insurance
aarp insurance
costco insurance
flood insurance
best insurance companies
cheap car insurance quotes
best travel insurance
insurance agents near me
car insurance
car insurance quotes
auto insurance
auto insurance quotes
long term care insurance
auto insurance companies
home insurance quotes
cheap car insurance quotes
affordable car insurance
professional liability insurance
cheap car insurance near me
small business insurance
vehicle insurance
best auto insurance
full coverage insurance
motorcycle insurance quote
homeowners insurance quote
errors and omissions insurance
general liability insurance
best renters insurance
cheap home insurance
cheap insurance near me
cheap full coverage insurance
cheap life insurance