นิทานเรื่องนี้เล่าถึงชีวิตของชายหนุ่มชื่อฟอร์ทูนาตัสตั้งแต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก ผ่านการผจญภัยเพื่อแสวงหาชื่อเสียงและโชคลาภ ต่อมาจึงติดตามเส้นทางอาชีพของบุตรชายทั้งสอง ฟอร์ทูนาตัสเป็นชาวเมืองฟามากุสตาในไซปรัส ตามเรื่อง เล่าเล่าขาน และได้พบกับเทพีแห่งโชคลาภในป่าแห่งหนึ่ง และได้รับกระเป๋าเงินใบหนึ่งจากเธอ ซึ่งกระเป๋าใบนั้นจะถูกเติมเต็มอยู่เสมอเท่าที่เขาหยิบออกมาใช้ เขาใช้กระเป๋าใบนี้ท่องเที่ยวไปทั่วดินแดนต่างๆ และที่ไคโรเขาได้เป็นแขกของสุลต่าน ในบรรดาสมบัติล้ำค่าที่สุลต่านแสดงให้เขาเห็นคือหมวกเก่าที่ไม่มีผ้าโพกหัว ซึ่งมีพลังในการพาผู้สวมใส่ไปยังที่ใดก็ได้ที่เขาปรารถนา เขาครอบครองหมวกใบนี้อย่างผิดกฎหมายและกลับไปยังไซปรัส ซึ่งเขาใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เมื่อเขาเสียชีวิต เขาได้มอบกระเป๋าเงินและหมวกใบนั้นให้กับอัมเปโดและแอนเดโลเซีย บุตรชายทั้งสอง แต่ทั้งสองต่างอิจฉาริษยากัน และด้วยความประมาทและความโง่เขลาของพวกเขา ไม่นานพวกเขาก็ตกอยู่ในวันเลวร้าย
เช่นเดียวกับนิทานเรื่องดอนกิโฆเต้ของมิเกล เด เซร์บันเตส ฟอร์ทูนาตัสเป็นนิทานที่บอกเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนผ่านจากโลกศักดินาไปสู่โลกทุนนิยมที่ทันสมัยและโลกาภิวัตน์มากขึ้น แม้จะไม่ใช่นิทานสอนศีลธรรมในความหมายที่แท้จริงที่สุด แต่นิทานเรื่องนี้ก็ถูกเขียนขึ้นอย่างชัดเจนเพื่อถ่ายทอดบทเรียนให้กับผู้อ่าน จำเป็นต้องอ้างอิง ]คติสอนใจของเรื่องนี้ชัดเจน: มนุษย์ควรปรารถนาเหตุผลและปัญญาเหนือสมบัติทั้งปวงในโลกการสูญเสียทรัพย์สมบัตินั้นง่ายดายเหลือเกิน หากปราศจากปัญญา ไม่ว่าจะได้มาด้วยวิธีใดก็ตาม










No comments:
Post a Comment